ธุรกิจท่องเที่ยว-เจ้าของโรงแรมฯ
รวมตัวเดินหน้ารักษาพื้นที่ป่า ร่วมกับชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อ
เดินหน้าหาความจริงเรื่องผ่อนปรนรีสอร์ทในเขตป่าสงวน
นายประสม ประคูณสุขใจ แกนนำชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อและเป็นเจ้าของเมาเทนพาร์ค-สวิสเซอร์แลนด์รีสอร์ท เผยถึงการเดินหน้าหาความจริงเรื่องที่ผู้ว่าฯผ่อนปรนให้รีสอร์ทในเขตป่าสงวนเขาค้อ ที่ตนเองได้เรียกร้องหน่วยงานรัฐแล้ว และได้เคยแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจในพื้นที่ไปหลายสิบคดีแล้วและศาลได้มีคำพิพากษาลงโทษจำคุกและปรับเจ้าของรีสอร์ท แต่รับสารภาพโทษจำคุกศาลจึงให้รอลงอาญา และถูกปรับ 10,000 บาท และปรับเป็นรายวันอีกถ้ายังเปิดกิจการอยู่ ซึ่งเจตนาของคำสั่งคสช.ฉบับนี้มีเจตนาผ่อนปรนให้เฉพาะโรงแรมรีสอร์ทที่ก่อสร้างอาคารในที่ดินที่มีกรรมสิทธิ์ถูกต้องตามกฎหมายเท่านั้น พร้อมเปิดโอกาสให้เจ้าของโรงแรมต้องมาทำให้ถูกต้อง ไม่ว่าเป็นเรื่องตาม พ.ร.บ.ควบคุมอาคาร และพ.ร.บ.โรงแรม ภายใน 2 ปี ส่วนโรงแรมรีสอร์ทที่ก่อสร้างในพื้นที่ป่าหรือไม่มีเอกสารสิทธิ์ตามกฎหมาย ไม่ได้รับการผ่อนปรนหรือคุ้มครองตามคำสั่งฉบับนี้
นายประสมฯ
แกนนำชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อกล่าวว่า ตนเองร้องเรียนเรื่องนี้มาตลอดเวลา
เพราะเขาค้อเป็นป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติที่มีเขตรอยต่อพื้นที่ถึงสามจังหวัดถือเป็นปอดของประเทศไทยในพื้นที่หลายล้านไร่จะต้องไม่ถูกทำลายหรือใช้พื้นที่ไปทำธุรกิจและสร้างความเสียหายด้านสิ่งแวดล้อม
ไม่ควรให้พ่อค้านายทุนเข้ามาทำผิดรุกพื้นที่ป่า ถ้าเรามองเพื่อการท่องเที่ยวในป่าสงวนและอุทยานแห่งชาติ
ก็ไม่จำเป็นต้องมีที่พักบริการนักท่องเที่ยวอยู่ในพื้นที่ป่าและทำลายสิ่งแวดล้อม เพราะในต่างประเทศทั่วโลกพื้นที่ป่าอุทยานฯ
เขาจะมีเพียงที่พักของเจ้าหน้าที่มีไว้เพื่อดูแลพิทักษ์ป่า เท่านั้น
เขาไม่เปิดให้พ่อค้านายทุน เข้าไปรุกพื้นที่ป่าทำธุรกิจ
พื้นที่เปิดโรงแรมถูกต้องตามกฎหมายมีทั่วไป
ทำไมมาเลือกพื้นที่ป่าที่เป็นทรัพยากรของคนทั้งชาติ
“แกนนำชมรมอนุรักษ์พื้นที่ป่าเขาค้อ” กล่าวตอนท้ายว่า
“กฎหมายไม่มีข้อยกเว้น" และ
ตนไม่มีอำนาจหน้าที่ในการเอาผิดตามกฎหมาย คงต้องเป็นความร่วมมือของพี่น้องประชาชนคนไทยทั่วประเทศ
ออกมาแสดงบทบาทร่วมด้วยช่วยกัน
เพื่อรณรงค์ ช่วยกัน อนุรักษ์ดูแล รักษาพิทักษ์
ผืนป่าไว้ให้เป็นปอดของลูกหลานชาวไทยตลอดไป” รักษาไว้
ให้ได้มากที่สุด
นักวิชาการและนักกฎหมายของสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ เตรียมลงพื้นที่เพื่อหาข้อมูลพร้อมเครือข่ายนักวิชาการด้านสื่อสารมวลที่เป็นวิทยากรของสถาบันฯไปพร้อมกันเพื่อข้อเท็จจริงในเรื่องนี้
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น