แกนนำ-ที่ปรึกษาสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์ ประชุมเดินหน้าเตรียมพร้อมจัดงานคาราวานแรลลี่”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย”
หวังเป็นคาราวานผสานความรู้เทคโนโลยี่-กฎหมาย พร้อมสุขภาพไปพร้อมกัน

       นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)พร้อมด้วย อ.นิดาวรรณ เพราะสุนทร(ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต), พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้”(ผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์)ที่ปรึกษาสถาบันฯ,อ.เภสัชกรอธิวัฒน์ สินรัชตานันท์,(นักวิชาการด้านสาธารณสุข-ผู้เชี่ยวชาญศาสตร์แพทย์ทางเลือก) คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์ (ประธานฯบริษัทและนักธุรกิจด้านอาหาร), ดร.สรุชัย เลี่ยมทอง(ประธานบริษัทฯเอดจิ้ง) พร้อมด้วย นายชนแดน  พรหมเมศร์(นักธุรกิจสมุนไพร) ได้ร่วมประชุมเตรียมความพร้อมการจัดงานคาราวานแรลลี่”สรรค์สร้างไทย อนาคตไทย” ที่จะมีขึ้นในปีหน้าเพื่อพบปะแลกเปลี่ยนและส่งเสริมความรู้ให้กับเครือข่ายในต่างจังหวัด 

สำหรับผู้เข้าร่วมประชุมในวันนี้ประกอบด้วย คุณอำนวย  โกวิทธรรมกรณ์(นักธุรกิจด้านดับเพลิง) , คุณอังกูร  ไผ่แก้ว​ (ประธานบริษัทรักษาความปลอดภัย)​คุณธรรมรัตน์  เทพหัสดิน ณ อยุธยา(คอลัมนิสต์อาหาร) ดร.ปิยวัส ผดุงสรรพ(นักธุรกิจด้านเศรษฐกิจพอเพียง),นายเทวพร  เจริญมี (นักธุรกิจด้านประกัน-และพลังทางเลือก),นายอิศรานนท์  สิทธาพิสทธิ์กุล(ที่ปรึกษาบริษัทส่งออกผลไม้)-และคอลัมม์นิสต์รถยนต์, อาจารย์เปี๊ยก-คุณเกียรติพงษ์  พิณทอง (ธุรกิจสุขภาพ), กชกร​ ศิริชัยกูล(ธุุรกิจส่วนตัว)​,คุณเอกวาสิทธิ์ ภู่เจริญศิลป์ โดยการแถลงข่าวอย่างเป็นทางการในเดือนธันวาคม ศกนี้.

    โดยในวันนี้ได้มีคุณชัยวัฒ อภิภูทรัพย์ไพศาล ประธานบริษัท เอสวีจีซิลเวอร์โกลด์กรุ๊ป จำกัด ที่สารวัตรแรมโบ้ชักชวนมาร่วมอุดมการณ์ และนายจิรโรจน์  มาลัยทองทิพย์ (นักธุรกิจจากภาคตะวันออก 8 จังหวัด)และอ.ดนัย หริพัฒน์กุล(ครูมวยไทย) พาเครือข่ายมาร่วมประชุมด้วย   โดยที่ประชุมสรุปประเด็นสาระของการเตรียมความพร้อมจัดงานจะลงพื้นที่จังหวัดประจวบฯ(เส้นทางกรุงเทพฯ-หัวหิน) โดยคาราวานแรลลี่ครั้งนี้จะเป็นคาราวานความรู้ควบคู่ไปกับความสนุกสนานและความบันเทิง มีการบรรยายทางวิชาการโดยทีมงานด้านLeadership นำโดยProf.อิน  นฤหล้า(นักวิชาการนานาชาติ)อดีตคณะบดีคณะบริหารเอแบคและทีมวิทยากรProf.ปีแอร์ เดอลาลองด์ , Prof.สก็อต  บัดเล่ย์ และทีมวิทยากรสุขภาพ อ.เภสัชกรอธิวัฒน์  และ ดร.สุรชัย  เลี่ยมทอง ซึ่งในปีหน้าสถาบันฯจะลงพื้นที่ไปทุกภาคเพื่อพบกับเครือข่ายแกนนำที่ร่วมกันก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์  ตามนโยบายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ให้มีภาวะผู้นำตั้งแต่ยังเป็นเยาวชนออกไปทั่วทุกภาค

รายงานข่าวโดย บก.เปี๊ยก อิสระ

 

 

จัดโครงการ"สรรค์สร้างไทย.. อนาคตไทย"คาราวานแรลลี่ความรู้-ผู้นำรุ่นใหม่-เทคโนโลยี่และท่องเที่ยวสู่ภูมิภาค

    

            สถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.) จับมือนักวิชาการ-นักธุรกิจ ประชุมจัดโครงการ “สรรค์สร้างไทย.. อนาคตไทย”กิจกรรมคาราวานแรลลี่ลงท้องถิ่น ในปี 2564 พร้อมขับเคลื่อนเดินหน้าสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ให้เป็นความหวังของประเทศในยุคเทคโนโลยี่

 

          วันที่ 23 พ.ย.63  นายสมชาย  พหุลรัตน์  ประธานสถาบันเครือข่ายไทยสร้างสรรค์(สคทส.)Sangsan Instituteพร้อมนักวิชาการด้านกฎหมาย อ.นิดาวรรณ   เพราะสุนทร (ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ม.รังสิต) ,ศ.ดร.สุรพล  บุญประถัมภ์ (นักวิชาการด้านศาสนา), พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้”แกนนำผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์(Creativity  Party) , ดร.วัลลภ  ใหญ่ยิ่ง (นักวิชาการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์,), อ.เภสัชกรอธิวัฒน์  สินรัชตานันท์  (นักวิชาการด้านสาธารณสุข), ดร.ปิยะวัส ชอบพระ (นักวิชาการด้านเศรษฐกิจพอเพียง), ดร.สุรชัย   เลี่ยมทอง  (ประธานสถาบันเอดจิ้ง), คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์(นักธุรกิจด้านอาหาร) และคุณชนแดน พรหมเมศร์(นักธุรกิจสมุนไพร) พร้อมด้วย อ.สุพัฒก์  ชุมช่วย(นักวิชาการอิสระและGTO) ร่วมกันประชุมคณะกรรมการกับเครือข่ายรวมพลังทำดีเพื่อแผ่นดิน เพื่อเตรียมจัดกิจกรรมคาราวานลงท้องถิ่นในปีหน้า ในโครงการที่ชื่อว่า “สรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย” โดยกิจกรรมดังกล่าวเป็นการรวมพลังของนักธุรกิจรุ่นใหม่และผู้คนหลากหลายสาอาชีพลงไปทำกิจกรรมในท้องถิ่น พร้อมกับเปิดรับฟังข้อมูลของเครือข่ายสถาบันฯในต่างจังหวัดที่จะรวมกันสร้างตัวแทนของผู้นำรุ่นใหม่ในทุกภาคโดยรูปแบบจะเป็นการจัดคาราวานแรลลี่ ควบคู่ขนานไปกับเวทีเสวนาความรู้ด้านกฎหมายและเทคโนโลยี่ไปพร้อมกัน

 

    อาจารย์ นิดาวรรณ เพราะสุนทร(ผอ.หลักสูตรนิติศาสตร์ ม.รังสิต)และในฐานะกรรมการโครงการสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย” กล่าวว่ากิจกรรมนี้นอกจากเป็นการรวมแรงร่วมใจกันหลาย ๆฝ่ายแล้วยังได้ความรู้ควบคู่ไปกับกิจกรรม ในยุคเทคโนโลยี่ทุกวันนี้เราสามารถจะเรียนรู้กฎหมายทางออนไลน์ได้ง่าย ๆ เหมือนที่ม.รังสิต เรียนอยู่ที่บ้านพอสอบถึงจะมามหาวิทยาลัย วันนี้เราได้สร้างเครือข่ายและสถาบันฯเป็นตัวขับเคลื่อน และยังมีแกนนำผู้ก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์ ที่มีบุคคลที่มีความรู้ความสามารถที่หลากหลายสาขาอาชีพมาร่วมมือกันอย่างเต็มที่

 

       ทางด้าน ดร.วัลลภ ใหญ่ยิ่ง (นักวิชาการด้านพัฒนาทรัพยากรมนุษย์)ที่เคยเป็นผู้บรรยายให้อสม. กล่าวว่าในฐานะที่เป็นกรรมการสถาบันฯและเป็นผู้ร่วมก่อตั้งพรรคฯ กล่าวว่ากิจกรรมโครงการสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย ครั้งนี้เป็นการจัดกรรมการที่ลงไปในพื้นและจะกระจายออกไปในหลาย ๆ พื้นที่ในอนาคตเป็นการรวมพลังของผู้คนหลากหลายสาขาอาชีพที่จะทำงานเพื่อประเทศชาติที่มีอุดมการณ์เดียวกันเพื่อให้เกิดเป็นพลังอันยิ่งใหญ่ที่การทำประโยชน์ เพื่อสังคมและการสร้างผู้นำรุ่นใหม่ไปด้วยในตัว

 

     พ.ต.อ.สุรโชค เจษฎาเดช “สารวัตรแรมโบ้” ที่ปรึกษาสถาบันฯและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างสรรค์ กล่าวว่าเราได้นักวิชาการที่หลากหลายจริง ๆ แม้กระทั่ง ดร.ปิยะวัส  ชอบพระ (นักวิชาการด้านเศรษฐกิจพอเพียง) ก็จะมาช่วยทางด้านสร้างอาชีพและรายได้ให้เกิดกับท้องถิ่นเอาความรู้ด้านเกษตรกรรม ในการจะสร้างนวัตกรรมด้านเกษตรมาทำให้เกิดรายได้กับท้องถิ่นและพี่น้องประชาชนให้เกิดรายได้ในหลายมิติ กิจกรรมสรรค์สร้างไทย  อนาคตไทย จึงได้ทั้งความรู้และการส่งเสริมการท่องเที่ยวไปด้วยในตัว

 

          คุณพัชรียาภรณ์  สิงหพัตร์ (นักธุรกิจด้านอาหาร) กล่าวว่าดีใจที่มีส่วนได้ร่วมกิจกรรมโครงการฯดี ๆ ที่เกิดประโยชน์ต่อส่วนรวม ในฐานะที่ได้ร่วมกิจกรรมกับสถาบันฯมาตั้งแต่ต้นเห็นด้วยการมีแนวคิดในการมีนโยบายสร้างผู้นำรุ่นใหม่ ให้มีจิตสำนึกความรับผิดชอบต่อสังคมและมีภาวะผู้นำตั้งแต่อายุยังน้อย ๆ อย่างต้นเองก็มีคุณศรีเวียง ไตรธีระประภาส รุ่นพี่มาร่วมเป็นจิตอาสากับโครงการฯด้วยเหมือนกัน

       สำหรับรายนามคณะกรรมการโครงการสรรค์สร้างไทย  ..อนาคตไทย ยังประกอบด้วย Prof.อิน นฤหล้า(อดีตคณะบดีบริหารธุรกิจเอแบค) Prof.ปีแอร์ เดอลาลองด์,Prof.สก็อต บัดเล่ย์, ดร.แสวง  วิทยพิทักษ์(อาจารย์ป.เอก ม.ราชภัฎจอมบึง) ดร.โชค ชัลวาลย์ (นักธุรกิจ-ศิลปิน) ,คุณอิศรานนท์ สิทธาพิสุทธิ์กุล(ที่ปรึกษาบ.ผลไม้ส่งออกฯบ.ไรซิง จก.) คุณเกียรติพงษ์  พิณทอง(หมอเปี๊ยก-ธุรกิจส่วนตัว), อ.ดนัย  หริพัฒน์กุล  (อาจารย์ครูมวยไทย), คุณสมบูรณ์   แสงสว่าง ประธานชุมชนฯ, นายพงษ์วุฒิ  ไตรธีระประภาศ(ธุรกิจส่วนตัว),คุณอำนวย  โกวิทธรรมกรณ์(นักธุรกิจ), อ.สุพจน์  สะแกงาม(นักวิชาการอิสระกสิกรรม)

รายงานข่าวโดย เปี๊ยก อิสระ

หมอพลเดช ปิ่นประทีป ปาฐกถาพิเศษ ประชาธิปไตย 3 ระดับ ชุมชนท้องถิ่นเป็นใหญ่

 

หมอพลเดช ปิ่นประทีป ปาฐกถาพิเศษ

ประชาธิปไตย 3 ระดับ ชุมชนท้องถิ่นเป็นใหญ่

                    เมื่อวันที่ 7 พ.ย.2563 สถาบันพระปกเกล้า ได้จัดประชุมวิชาการ ครั้งที่ 22 ในหัวข้อ "จินตภาพใหม่การกระจายอำนาจเพื่อลดความเหลื่อมล้ำ : บทเรียนจากโควิด-19" ที่อิมแพ็คชาเลนเจอร์ เมืองทองธานี ปากเกร็ด จังหวัดนนทบุรี

            โดยมีวัตถุประสงค์หลักเพื่อแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์การกระจายอำนาจ ลดความเหลื่อมล้ำและเสริมสร้างประชาธิปไตยที่มีคุณภาพภายใต้ปัจจัยแวดล้อมวิกฤตต่าง ๆ โดยเฉพาะจาก COVID-19 ซึ่งมีนักวิชาการผู้ทรงคุณวุฒิเข้าร่วมเสนอแนวทางในการขับเคลื่อนประเทศไทยไปสู่สังคมประชาธิปไตยที่ยั่งยืน

            โดยหนึ่งในผู้ร่วมปาฐกถา คือ นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป ได้รับเชิญพิเศษ ในการปาฐกถากลุ่มย่อย เรื่อง "พลังพลเมืองเพื่อขุมชนเข้มแข็ง" 

            ซึ่งคุณหมอพลเดช ปิ่นประทีป ได้กล่าวไว้ตอนหนึ่งในองค์ประกอบของระบอบประชาธิปไตยการมีส่วนร่วมอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข อย่างน้อยมี 3 องค์ประกอบคือ องค์ประกอบที่ 1 คือ ประชาธิปไตย ชุมชน ที่อยู่ฐานราก หรือฐานล่าง ซึ่งเป็นชุมชนขนาดใหญ่ ที่จัดการปัญหาด้วยตัวเอง องค์ประกอบที่ 2 คือ ประชาธิปไตย ระดับนโยบายท้องถิ่นที่ชุมชนเลือกให้เป็นตัวแทนไปบริหารชุมชนในระดับท้องถิ่น ซึ่งชุมชนที่ว่านี้ สามารถตามไปกำกับดูแลได้อย่างใกล้ชิดว่า ผู้แทนชุมชนท้องถิ่นที่ตัวเองเลือกไปโกงหรือไม่โกง บริหารดีหรือไม่ดี ตรงนี้เขาสามารถเรียนรู้ได้เพราะอยู่ใกล้ชิด จึงเป็นตัวเชื่อมที่สำคัญให้ชุมชนเข็มแข็ง องค์ประกอบที่ 3 คือ ประชาธิปไตยแบบตัวแทน คือ เลือกไปเพื่อที่จะใช้อำนาจในระดับชาติ เป็น ส.ส. เป็น ส.ว. เป็นรัฐบาล  เป็นต้น

            ฉะนั้น ประชาธิปไตย 3 ระดับ ที่ว่านี้ ในระดับชุมชนเป็นประชาธิปไตยที่ใหญ่ที่สุด สำคัญที่สุด ตรงกลางคือประชาธิปไตยระดับท้องถิ่น และตรงยอดปลาย คือระดับที่ 3 มีคนจำนวนเพียงเล็กนิดเดียว เพียงแค่หมื่นคน จากประชากร 65 ล้านคน ซี่งประชาธิปไตยแบบปลายยอดจะไม่มีก็ไม่ได้ แต่ต้องให้ความสำคัญระดับฐานรากชุมชนท้องถิ่น ที่อยู่ตรงกลางและฐานราก เป็นสำคัญ

            โดยยกตัวอย่างที่อาจารย์หมอ นายแพทย์ประเวศ วะสี ราษฎรอาวุโส ที่เคยได้กล่าวไว้ว่า ประชาธิปไตย ที่ดีที่สุดอยู่ที่ท้องถิ่น คือระดับล่าง หรือ ฐานราก นั่นเอง ดังนั้นจึงบอกได้ว่า ประชาธิปไตยที่ดีที่สุดคือระดับท้องถิ่น นายแพทย์พลเดช ปิ่นประทีป กล่าวยกตัวอย่างไว้ในบางช่วงบางตอนของการปาฐกถาพิเศษ ครั้งนี้

 

CF: โก้@ข่าวOnlinสื่อกลาง

รายงานข่าวโดย บก.เปี๊ยก อิสระ

นางสาวไทย 2563 รอบออดิชั่นคัดเข้ม ลุ้นโฉม 30 สาวงามที่จะได้ร่วมพิชิตมงกุฎในฝันอันทรงคุณค่าของหญิงไทย

 

นางสาวไทย 2563 รอบออดิชั่นคัดเข้ม ลุ้นโฉม 30 สาวงามที่จะได้ร่วมพิชิตมงกุฎในฝันอันทรงคุณค่าของหญิงไทย

    เมื่อวันที่ 15 พฤศจิกายน 63 กองประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 นำโดย ดร.อดิศร สุดดี ผู้อำนวยการกองประกวด ได้จัดกิจกรรมการคัดเลือกผู้เข้าประกวดนางสาวไทย ประจำปี 2563 ในรอบออดิชั่น จากผู้สมัครที่ได้รับการคัดเลือกจากคณะกรรมการ กว่า 100 คน เพื่อให้เหลือสาวงาม 30 คนสุดท้าย ที่จะได้เข้าร่วมพิชิตมงกุฎในฝันอันทรงคุณค่าของหญิงไทย ณ ห้อง Grand Ballroom ชั้น C โรงแรม Grande Centre Point Hotel Terminal 21

        

สำหรับการคัดเลือกในรอบนี้ มีคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ ได้แก่ อนันต์ จันทรากูล อุปนายกสมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์คนที่ 3, รดิทัศ ประภานนท์ รองประธาประชาสัมพันธ์ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ไชยวุฒิ พึ่งทอง ประธานฝ่ายกิจกรรมพิเศษ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, กมล นันทิยาภูษิตกรรมการและประธานกีฬากอล์ฟ สมาคมนักเรียนเก่าวชิราวุธวิทยาลัย ในพระบรมราชูปถัมภ์, ดร.อดิศร สุดดี ผู้อำนวยการกองประกวด ยังมีนางงามรุ่นพี่อย่าง บิ๊นท์-สิรีธร ลีห์อร่ามวัฒน์ นางสาวไทย ประจำปี 2562 – Miss International 2019-2020, สาวิณี ปะการะนัง นางสาวไทย ประจำปี 2527 ร่วมด้วย ตรีมินทร์ เกษมวิรัติพงศ์ Professional Certified Coach ผู้เชี่ยวชาญด้นการปรับทัศนคติและดึงศักยภาพ และ ดร.พีรพงษ์ ฟูศิริ รองอธิบดีฝ่ายสื่อสารการตลาด มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย

     ร่วมกันคัดเลือกผู้สมัครกว่า 100 คน ที่มีความสวยตรงตามคอนเซปต์ “Authentic Empowering Beauty งามอย่างแตกต่างและมีคุณค่า”

     

       รายชื่อผู้ผ่านเข้ารอบ 30 คนสุดท้าย

4 ณัชศิญาณ์ วิเชียรชอย

6 จุฑามณี พาราสิงห์

16 พิมญาดา จันทรวงษ์

22 แพรววัชร ชมิด

29 ปทิตตา สันติวิชช์

30 อักษร ทองเปลว

33 ขวัญทิชา โถรัตน์

36 เปรมา อนันตาภรณ์

39 อรชดา ไชยสาร

44 กัญญาณัฐ น่วมนารี

47 สุพรรณิการ์ นพรัตน์

48 ไอลิน แนบสุข

51 ณัฐพัชร พงษ์ประพันธ์

52 พัทธรียา สังข์อุ่น 

54 ยุวภรณ์ ทรงงาม

55 ปรียาดา บัวสมบุญ

58 ธนพัชร์ รัฐพร

61 แอนนา เสืองามเอี่ยม

66 ณิษฐกาณต์ อักษรวรรณ

69 พมลชนก ดิลกรัชตสกุล

70 แพรวพิลาศ ลูพิมาย

71 ชุติกาญจน์ เสียงจินดารัตน์

78 ภัทราภรณ์ เมาลี

82 ชนิภรณ์ ทรัพย์มี

83 สุทธิชา กลับช่วย

85 ปฏิมาภรณ์ ขยันชม

90 ศริตาภา เทรลฟอลล์

96 ธัญจิรา ยารังษี

97 ศุภมน ชฎาดำ

98 กมลพร ทองพล

สำรอง 5 คน

50 ชญานิศ ต.เจริญ

38 จิตรลดา เลขาวิจิตร์ 

31 ร.ต.ท.หญิงกิตติยา ภูมิสูง

41 วรวรรณ หวัง

27 กชพรรณ ไพฑูรย์

        ร่วมให้กำลังใจ และติดตามกิจกรรมต่างๆ ของทั้ง 30 สาวงามได้ที่ นางสาวไทย - Miss Thailand : FB Fan Page 

#MissThailand2020

#นางสาวไทย2563

#AuthenticEmpoweringBeauty

#งามอย่างแตกต่างและมีคุณค่า

#เปลี่ยนผู้หญิงธรรมดาให้เป็นผู้หญิงที่ไม่ธรรมดา

#MGroup

#Ch7HD

 ทวีชัย แสงวิรุณ ถ่ายภาพ>บก.เปี๊ยก อิสระ รายงาน